ไขคำตอบ เรซูเม่แบบไหน HR เรียกสัมภาษณ์ทันที

  • 24 Jan 2025
  • 26422
หางาน,สมัครงาน,งาน,ไขคำตอบ เรซูเม่แบบไหน HR เรียกสัมภาษณ์ทันที

 

เรซูเม่ก็เขียนส่งแล้ว วุฒิก็มี ประสบการณ์ก็พอได้ ทำไม HR ไม่โทรเรียกไปสัมภาษณ์สักที !!! ??

ใครที่กำลังรองานอยู่อย่าเพิ่งท้อนะครับ เพราะบทความนี้จะพาคุณไปไขคำตอบที่จะเพิ่มโอกาสให้คุณได้งาน ไม่ต้องมานั่งรอเป็นเดือนๆ อีกแล้ว

การเขียนเรซูเม่สมัครงาน ไม่ใช่แค่เขียนเพียงเพื่อบอกประวัติ วุฒิการศึกษาและประสบการณ์ แต่ต้องเขียนให้เห็นว่า ประวัติของคุณมีความพิเศษและน่าสนใจมากขนาดไหน เพราะนายจ้างย่อมต้องการคนที่มีความสามารถจริงๆ เข้ามาทำงานอยู่แล้ว

แล้วต้องเขียนอย่างไร ?  ไปพบกับส่วนประกอบและวิธีการเขียนเรซูเม่ให้ดึงดูดใจ HR  กันเลย

 

 

1.ข้อมูลส่วนตัว

เช่น  ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทร,  E-mail, Facebook, Line หรือช่องทางอื่นๆ ที่สามารถติดต่อได้เท่านั้น และต้องตรวจสอบให้ดี ห้ามเขียนผิดเด็ดขาด เพื่อให้ HR ติดต่อคุณได้ทันทีเมื่อต้องการเรียกคุณมาสัมภาษณ์ นอกจากนี้ หากที่พักของคุณอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือสามารถโยกย้ายได้ ก็สามารถเรียกความสนใจได้เช่นกัน รวมถึงสถานะทางครอบครัวและทางทหารก็เป็นสิ่งสำคัญที่ HR นำมาพิจารณาด้วย 

 

 

 

2.ประวัติส่วนตัว

เป็นการสรุปจุดเด่นที่สามารถสร้างจุดขายให้ตัวคุณประมาณ 3 ประโยค โดยเขียนถึงความสามารถ ทัศนคติและเป้าหมายในการทำงาน รวมถึงทักษะเด็ดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตำแหน่งงานที่สมัคร ซึ่งต้องเขียนให้เข้าใจง่าย เมื่อ HR อ่านแล้วอยากเรียกคุณมาสัมภาษณ์ทันทีเลยก็ว่าได้

ตัวอย่าง

ปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ตลอดเวลาและทำงานล่วงเวลาได้ พร้อมปรับปรุงแก้ไขงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  มีประสบการณ์ด้านการขาย 2ปีพร้อมทักษะด้านการพูดและเขียนภาษาอังกฤษ-จีนได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

 

3.ประวัติการทำงาน

คุณต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่เคยร่วมงานมาก่อนอย่างละเอียด ได้แก่ ตำแหน่งงาน,  ลักษณะการทำงาน ความสำเร็จของงานที่ผ่านมา , ระยะเวลาการทำงาน, เหตุผลการลาออก, ชื่อบริษัท, ที่อยู่บริษัท, เงินเดือน โดยเฉพาะลักษณะการทำงานที่ต้องให้ข้อมูลอย่างละเอียดว่าคุณเคยทำอะไรบ้าง เกิดประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไร เพราะส่วนนี้จะแสดงให้ HR เห็นทักษะและความสามารถของคุณ และถ้าประสบการณ์ตรงกับตำแหน่งที่สมัคร เรซูเม่ก็จะยิ่งน่าสนใจ เช่น ตำแหน่งพนักงานขาย “ขายเครื่องสำอางให้เป็นไปตามยอดขายที่กำหนดและสามารถเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรได้ทุกเดือน” รวมถึงงานอื่นที่นอกเหนือไปจากงานหลักที่คุณต้องทำด้วย ซึ่งปัญหาการเขียนเรซูเม่ส่วนใหญ่ มักจะไม่ให้รายละเอียดให้ส่วนนี้ เช่น เขียนเพียงแค่ว่า “ขายเครื่องสำอาง” ทำให้ไม่เห็นทักษะใดๆ ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้

ส่วนนักศึกษาจบใหม่ก็ต้องใส่ข้อมูลการฝึกงานอย่างละเอียดเช่นกัน รวมถึงประสบการณ์การทำงานอื่นๆ ที่คุณเคยทำตอนสมัยเรียนด้วย 

 

 

 

4.ประวัติการศึกษา

เขียนเรียงลำดับจากวุฒิการศึกษาสูงสุดไปต่ำสุด โดยทั่วไปจะเขียนสิ้นสุดที่มัธยมศึกษา ข้อมูลที่ต้องเขียนคือ ช่วงเวลาที่เรียน วุฒิที่ได้รับ สถาบันการศึกษา เกรดเฉลี่ย หรือข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับประวัติการศึกษาที่มีความน่าสนใจก็ควรใส่ลงไปด้วย เช่น เกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งข้อมูลส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เมื่อ HR เห็นแล้วอาจใช้ตัดสินว่าจะพิจารณาในตัวคุณต่อหรือไม่ เพราะตำแหน่งงานที่คุณสมัคร มักกำหนดไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่าต้องการผู้ร่วมงานที่มีวุฒิการศึกษาระดับใด เกรดเฉลี่ยเท่าไร หรือสถาบันที่จบการศึกษาด้วย และแม้ว่าประวัติในส่วนนี้จะไม่มีสิ่งที่น่าสนใจ แต่อย่างน้อยก็ต้องระบุข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วน     

 

 

 

5.กิจกรรมและทักษะ

เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมหรือการฝึกอบรมที่คุณเคยเข้าร่วม รายละเอียดที่ควรเขียนคือ ระยะเวลาในการร่วมกิจกรรม, สถาบัน, คอร์สหรือหัวข้อกิจกรรม เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณได้ทักษะอะไรเพิ่มเติมบ้าง 

ตัวอย่าง

 

ส่วนข้อมูลทางด้านทักษะ เป็นการให้ข้อมูลที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณจะสามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับองค์กรได้บ้างและมากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่าง

 

ทักษะดังตัวอย่างนี้ เป็นเพียงทักษะธรรมดาที่ทุกคนควรมี โดยเฉพาะทักษะทางคอมพิวเตอร์ที่ผู้ประกอบการยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีทักษะอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการจำนวนมากเช่นกัน อาทิ การสื่อสาร , การเป็นผู้นำ ,การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ,การทำงานเป็นทีม รวมถึงทักษะเชิงเทคนิคเฉพาะของตำแหน่งงาน

ดังนั้น เพื่อให้ตัวคุณเป็นที่ต้องการขององค์กรมากยิ่งขึ้น ควรหาโอกาสในการเข้าชมรมต่างๆ เช่น ชมรมโต้วาที ชมรมฝึกการพูด ที่สามารถบ่งบอกว่าคุณมีทักษะเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

ส่วนทักษะเชิงเทคนิคเฉพาะ ในกรณีที่เพิ่งจบใหม่ นอกจากทักษะที่ได้จากการฝึกงานแล้ว ควรมีกิจกรรมหรืองานอดิเรก เช่น การอ่านหนังสือเสริมทักษะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณมีความพยายามที่จะพัฒนาตนเองให้พร้อมทำงานกับองค์กรมากที่สุดด้วย โดยเฉพาะทักษะทางด้านภาษาในตอนนี้เป็นที่ต้องการมาก ยิ่งถ้ามีภาษาที่ 3 ด้วย เรซูเม่ของคุณก็จะยิ่งน่าสนใจ

นอกจากนี้ สำหรับผู้มีวุฒิการศึกษาที่ไม่สูงก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะถ้าคุณมีกิจกรรมและทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร แสดงความพร้อมที่จะเติบโตในสายงานที่สมัคร เรซูเม่ของคุณก็โดดเด่นได้เช่นกัน

 

 อย่างไรก็ตาม รูปที่ใช้ในการส่งเรซูเม่ก็ต้องเป็นรูปที่เหมาะสมด้วย ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปติดบัตร ใส่เสื้อสูทหรือเสื้อเชิ้ตคอปก นักศึกษาจบใหม่ก็จะใส่ชุดครุย และที่สำคัญต้องใช้ภาษาเขียนทั้งหมดและตรวจสอบคำผิดก่อนทำการส่งด้วย

การหางานจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าบอกให้ HR รู้ได้ชัดเจนว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้ ซึ่งเรซูเม่ก็เป็นสิ่งแรกที่จะทำให้ HR  รู้จักคุณ เพราะฉะนั้น ถ้าส่งเรซูเม่สมัครงานไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับสักที ลองสำรวจดูอีกครั้งนะครับ ว่าเรซูเม่ที่ส่งไปสามารถสื่อสารให้ HR รู้ถึงความสามารถของคุณมากพอหรือเปล่า ? แต่สิ่งที่คุณเขียนในเรซูเม่ก็ไม่ควรเขียนเกินความเป็นจริงเพียงเพื่อต้องการให้ HR สนใจ แต่ให้เขียนในสิ่งที่ต้องการและตั้งใจจะสร้างให้กับองค์กรนั้นอย่างแท้จริง

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top